สัปดาห์นี้
รายการ “เปอร์สเปกทีฟ”
เหมาะสำหรับผู้ชมที่สนใจในอาชีพนางแบบหรือคนที่เป็นนางแบบอยู่แล้วแต่ต้องการพัฒนาตัวเองให้สามารถอยู่ในสายอาชีพนี้ให้ยาวนาน
งานนี้พิธีกร “เปอร์ – สุวิกรม อัมระนันท์” จะพาไปพบกับ “อุ๋ม - อาภาศิริ นิติพน” นางแบบแถวหน้าของเมืองไทยตลอดกาลมากว่า
30 ปี ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังเป็นนักแสดงมากความสามารถในภาพยนต์และละครอีกหลายต่อหลายเรื่อง
เคล็ดลับอะไรที่ทำให้เธอเป็นซุปเปอร์โมเดลและนักแสดงคุณภาพได้อย่างยาวนาน
เส้นทางแห่งมืออาชีพนี้จะเป็นอย่างไรวันอาทิตย์ที่1 มีนาคม นี้ ห้ามพลาด!!
อุ๋ม
- อาภาศิริ เผยว่า “อาชีพนี้ไม่ง่ายเลย ทุกครั้งที่เราเดินแบบตาเราต้องมองกล้อง
แต่จิตเราอยู่ที่เท้า นี่เป็นความรู้สึกที่พี่สามารถทำให้คนดูจ้องดูเราได้ การเดินแบบต้องมีสติคล้ายกับการปฏิบัติธรรม ทุกครั้งที่เดินเราต้องมีสมาธิทุกย่างก้าว และส่วนตัวถามว่าเคยพลาดในการเดินบนเวทีไหมต้องบอกว่าพี่ก็เคยพลาดสะดุดบนเวทีแต่เราทำเป็นเนียน ๆ และเดินต่อไปมันเป็นประสบการณ์ชีวิต และหลักสูตรการเดินแบบขั้นพื้นฐานคือต้องมีบุคลิกภาพที่ดี ต้องบอกก่อนว่าตอนเด็กพี่จะไม่ค่อยมีความเป็นผู้หญิงเลยเพราะเรามีพี่ชายสองคน เราคือน้องผู้หญิงคนเดียวแต่ที่ทำให้มาเป็นนางแบบได้เพราะว่า แฟนของพี่เราบอกว่ามีการสมัครนายแบบ นางแบบ อายุ 18-25 ปี เขาหาแค่ 10 คนที่จะไปเดินในงานเทรนเซตเตอร์ที่เป็นงานรวมของ ดีไซน์เนอร์ 10 คนเป็นงานใหญ่มาก ๆ ในยุคนั้น พี่ก็ชวนพี่อ่ำ-อัมรินทร์ นิติพน ตอนนั้นพี่จะเรียกเขาว่าพี่เตี้ย และก็ไปสมัครพร้อมกันแต่ด้วยความเขาเป็นผู้ชายเขาก็บอกไม่เอาไม่อยาก อุ๋มทำเลย บ่ายวันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของสาวมาดเซอร์ ที่ได้รับคัดเลือกไปเดินในงานนั้นด้วย โชคดีที่เราเข้าไปแล้วเขาสอนเราทุกอย่าง แต่ปัญหาก็ต้องมีเพราะก่อนที่จะไปเดินเทรนเซตเตอร์ใหญ่ก็จะมีงานเล็ก ๆ เข้ามาก่อนให้เราได้ลองเดิน แต่คุณพ่อไม่ชอบด้วยความที่ท่านเป็นตำรวจจึงไม่ยอมให้ลูกสาวที่เรียนมาถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปเดินแบบ จะไป เต้นกิน รำกินไม่ได้ เราก็คุยกับพ่อว่าเราติด 1 ใน 10 เลยนะคะ แต่คำที่พ่อตอบกับมาทำไมไม่ติด 1 ใน 10 จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์ เราก็บอกว่าเราจะไม่ทิ้งการเรียน ไม่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและไม่ถ่ายแบบเซ็กซี่โดยเด็ดขาด จนคุณพ่อก็ใจอ่อน และคุณแม่คอยสนับสนุนเราและพี่อยากบอกให้คนที่อยากจะเป็นนางแบบว่าคนไทยยังไงก็ชอบคนที่มีมารยาท อ่อนน้อมถ่อมตน อยากให้ทุกคนเรียนรู้เพราะทุกอย่างคือประสบการณ์”
แต่จิตเราอยู่ที่เท้า นี่เป็นความรู้สึกที่พี่สามารถทำให้คนดูจ้องดูเราได้ การเดินแบบต้องมีสติคล้ายกับการปฏิบัติธรรม ทุกครั้งที่เดินเราต้องมีสมาธิทุกย่างก้าว และส่วนตัวถามว่าเคยพลาดในการเดินบนเวทีไหมต้องบอกว่าพี่ก็เคยพลาดสะดุดบนเวทีแต่เราทำเป็นเนียน ๆ และเดินต่อไปมันเป็นประสบการณ์ชีวิต และหลักสูตรการเดินแบบขั้นพื้นฐานคือต้องมีบุคลิกภาพที่ดี ต้องบอกก่อนว่าตอนเด็กพี่จะไม่ค่อยมีความเป็นผู้หญิงเลยเพราะเรามีพี่ชายสองคน เราคือน้องผู้หญิงคนเดียวแต่ที่ทำให้มาเป็นนางแบบได้เพราะว่า แฟนของพี่เราบอกว่ามีการสมัครนายแบบ นางแบบ อายุ 18-25 ปี เขาหาแค่ 10 คนที่จะไปเดินในงานเทรนเซตเตอร์ที่เป็นงานรวมของ ดีไซน์เนอร์ 10 คนเป็นงานใหญ่มาก ๆ ในยุคนั้น พี่ก็ชวนพี่อ่ำ-อัมรินทร์ นิติพน ตอนนั้นพี่จะเรียกเขาว่าพี่เตี้ย และก็ไปสมัครพร้อมกันแต่ด้วยความเขาเป็นผู้ชายเขาก็บอกไม่เอาไม่อยาก อุ๋มทำเลย บ่ายวันนั้นเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของสาวมาดเซอร์ ที่ได้รับคัดเลือกไปเดินในงานนั้นด้วย โชคดีที่เราเข้าไปแล้วเขาสอนเราทุกอย่าง แต่ปัญหาก็ต้องมีเพราะก่อนที่จะไปเดินเทรนเซตเตอร์ใหญ่ก็จะมีงานเล็ก ๆ เข้ามาก่อนให้เราได้ลองเดิน แต่คุณพ่อไม่ชอบด้วยความที่ท่านเป็นตำรวจจึงไม่ยอมให้ลูกสาวที่เรียนมาถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปเดินแบบ จะไป เต้นกิน รำกินไม่ได้ เราก็คุยกับพ่อว่าเราติด 1 ใน 10 เลยนะคะ แต่คำที่พ่อตอบกับมาทำไมไม่ติด 1 ใน 10 จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์ เราก็บอกว่าเราจะไม่ทิ้งการเรียน ไม่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและไม่ถ่ายแบบเซ็กซี่โดยเด็ดขาด จนคุณพ่อก็ใจอ่อน และคุณแม่คอยสนับสนุนเราและพี่อยากบอกให้คนที่อยากจะเป็นนางแบบว่าคนไทยยังไงก็ชอบคนที่มีมารยาท อ่อนน้อมถ่อมตน อยากให้ทุกคนเรียนรู้เพราะทุกอย่างคือประสบการณ์”
แค่พูดคุยคงไม่เห็นภาพ
หนุ่มเปอร์ สุวิกรม เลยได้เรียนรู้วิธีการเดินแบบตัวต่อตัวกับตัวแม่ของวงการอีกด้วย
จะเป็นอย่างไรต้อง ติดตามเรื่องราวชีวิตของ “อุ๋ม - อาภาศิริ
นิติพน” ได้ในรายการ
Perspective วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2563 เวลา 21.00
น. ทางช่อง 9 MCOT HD และ
Facebook Live: Perspective
.jpg)
Hello, my name is Jack Sparrow. I'm a 50 year old self-employed Pirate from the Caribbean.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น