“คุณปิ่น”ขอบคุณ
เชิญชวน ชี้เป้า เสนอละคร 2 เรื่อง 2 รส
ฝ่ากระแสโควิค ขอไม่ติดเชื้อแต่ติดละครช่อง
3 แทน
ผ่านจุดที่เรียกว่ากดดันทุกมิติมาแล้ว
สำหรับผู้จัดแกร่งค่ายทีวีซีน คุณปิ่น ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
เพราะที่ผ่านมาความร้อนระอุของงานแข่งกับอุณหภูมิช่วงเดือนเมษาเลยก็ว่าได้
ละครออกอากาศพร้อมกัน 2 เรื่อง มายาเสน่หา กับ อุบัติร้ายอุบัติรัก
ครองจอช่อง 3 5 วันรวด ถามว่าไหวมั๊ย คุณปิ่นตอบเลยว่า “ไม่ไหวบอกไหว
สู้ตายค่ะ” ซึ่งวันนี้คุณปิ่นเล่าให้เราฟังว่า
“ปกติก็จะออกอากาศทีละเรื่อง
ครั้งนี้ละครออกอากาศพร้อมกัน 2 เรื่อง ในอาทิตย์เดียวกัน
จากที่เคยลุ้นแค่เรื่องเดียวก็จะต้องเตรียมตั้งรับและปรับปรุงแก้ไขไปพร้อมๆกันแทบจะทุกวันก็ว่าได้
เราไม่รู้ว่าคนดูจะชอบมั๊ย ละครเราจะมีจุดบกพร่องตรงไหนอีกรึเปล่า
รึว่าจะโดนดราม่าอะไรมั๊ยวันนี้ ฯลฯ คือความกังวลและความกดดันมีทุกวันจริงๆ แม้ว่าเราจะพยายามควบคุมอย่างเต็มที่แล้วแต่ต้องยอมรับว่าความผิดพลาดมันก็ยังมีอยู่ควบคู่กันไป
ตราบใดที่เรายังคงทำงานเพื่อเดินไปข้างหน้า และพยายามพัฒนาตัวเองพี่คิดแบบนั้นนะ
“มายาเสน่หา”เรื่องนี้เป็นอะไรที่ยากในส่วนของการแคสติ้ง
และเมื่อเราได้นักแสดงในฝันแต่ละคนมาร่วมงาน
สิ่งที่ต้องระวังคือการเฉลี่ยและน้ำหนักของบทเพื่อความสนุกและการให้เกียรติทุกคนที่ให้เกียรติเรา
เรื่องนี้สำคัญมาก ทุกคนอาจจะบอกว่ามันคือละครผัวเมียทั่วไป ใช่พี่อยากจะใช้เรื่องที่ใกล้ตัวเรานี้แหละมาสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงที่อาจจะเกิดกับใครก็ได้
มันต้องจับต้องได้เพื่อจะได้นำมาปรับใช้กับชีวิตจริงได้ง่าย แก่นของเรื่องนี้คือสถาบันครอบครัว
อยากจะให้เห็นว่าความรักความเข้าใจและความมั่นคงของครอบครัวจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การใช้ชีวิตของทุกคน
เพราะจากครอบครัวใหญ่ก็จะแตกไปเป็นครอบครัวเล็กแตกแขนงไปไม่สิ้นสุด ถ้าความรักและความเข้าใจรู้บทบาทของแต่ละคนถูกต้อง
ถูกที่ ถูกเวลา อะไรก็ไม่สามารถทำลายชีวิตเราได้ ครอบครัวจึงสำคัญที่สุด
“อุบัติร้ายอุบัติรัก”
เรื่องนี้ตั้งใจมากที่จะสะท้อนให้เห็นถึงจิตสำนึกต่อสังคมส่วนรวม
ละครแต่ละเรื่องของทีวีซีนพี่จะถามเสมอว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์อะไรให้แง่คิดเรื่องไหนได้บ้าง
ซึ่งเรื่องนี้ชัดเจนมากในเรื่องอุบัติเหตุและผลที่ตามมาของความขาดสติยั้งคิด
คำนี้ชัดเจนที่สุด “ใช้อุบัติรักเพื่อรักษาอุบัติร้าย”ในเรื่องเราค่อนข้างใส่บทสนทนา
และภาพของสังคมจริงที่เกิดขึ้นมาเป็นตัวบอกกล่าว
และที่เราภูมิใจมากที่สุดคือการได้รับเกียรติจากคุณคริสโตเฟอร์ เบญจกุล
มาร่วมแสดงกับเรา
พี่คริสเป็นคนแรกและคนเดียวที่พี่คิดถึงและยกหูโทรหาแกเองเพื่อขอให้แกมาเล่นเรื่องนี้ให้พี่
และขออนุญาตนำเรื่องราวของเค้ามาใส่ไว้ในละครของพี่
ภาพที่เราได้เห็นมันชัดเจนมากเพราะพี่คริสคือเหยื่อจากการเมาแล้วขับจริงๆ
วันนี้เค้ากลับมามีที่ยืนอีกครั้งในสังคม และได้บอกเล่าเรื่องราวพร้อมทั้งเป็นสื่อกลาง
เพื่อช่วยรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนน กับการเมาแล้วขับ ต้องขอบคุณพี่บุ๋ม
รัญญา ผกก.เพราะพี่บุ๋มสามารถจับพี่คริสมาร้อยเรียงให้เข้ากับบทและนักแสดงทุกคนได้อย่างกลมกลืนมาก
แม้ว่าเรื่องนี้จะมีเส้นเรื่องที่แยกเป็น 2
ทางคือความรักกับอุบัติเหตุซึ่งเป็นปมหลักของปัญหาทุกอย่าง
แต่เราพยายามผูกทั้ง2เส้นเข้าหากันให้ตัวละครทุกคนโยงกันเพื่อนำไปสู่ทางออกที่ถูกต้อง
โดยการใช้ความรักเยียวยาความโกรธแค้นและแบ่งปันโอกาสดีๆความเห็นอกเห็นใจ
เพื่อการอยู่ร่วมกันได้ในสังคมโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
วันนี้
“มายาเสน่หา”มาถึงตอนจบแล้วพี่และทีมงานนักแสดงทุกคนปลื้มใจและขอบคุณมากสำหรับกระแสตอบรับของทุกคน
หายเหนื่อยจริงๆเรื่องนี้เราโดนวิกฤติโควิดอย่างจังจนไปไม่เป็นกันเลย
ทุกคนต้องตั้งสติและตั้งรับกับ New Normal ครั้งสำคัญในชีวิตการทำงานแต่เราก็ผ่านกันมาได้
ขอให้ละครเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งความบันเทิงที่เป็นตัวอย่างการใช้ความรักและชีวิตคู่ที่ถูกต้องมั่นคง
และอย่าลืมส่งกำลังใจต่อให้กับ “อุบัติร้ายอุบัติรัก” ที่กำลังเข้มข้นกันต่อไป
เรื่องนี้ไม่ฉูดฉาดแต่ฟาดเรื่องต่อมจิตสำนึกของคนได้ไม่เบาเลย อย่าเห็นแก่ตัวแต่ต้องดูส่วนรวมให้มาก
การเมาแล้วขับพูดกันตลอดรณรงค์กันทุกปีแต่ไม่มีอะไรดีขึ้น หวังว่าละครจะเป็นการบอกต่อได้ไม่มากก็น้อย
พี่ขอเป็นตัวแทนทีมงานและนักแสดงทุกคนเชิญชวนเพื่อชมและเชียร์
“อุบัติร้ายอุบัติรัก”ละครหักมุมไม่ตรงปก แต่ตรงใจหลายๆคนค่ะ” คุณปิ่นกล่าว
==30/4/21==
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น