กรมการท่องเที่ยว โกยรายได้กองถ่ายหนังต่างประเทศกว่า 5 พันล้าน ชูจุดขายรีโอเพ่นนิ่ง รีเทิร์นตลาดหนังเมืองคานส์

 

กรมการท่องเที่ยว ทำรายได้นิวไฮ โกยรายได้กองถ่ายหนังต่างประเทศกว่า 5 พันล้าน ชูจุดขายรีโอเพ่นนิ่ง รีเทิร์นตลาดหนังเมืองคานส์

 

กรมการท่องเที่ยว ทำนิวไฮโกยรายได้กองถ่ายหนังต่างประเทศ เปิดสถิติปี 2564 ทำรายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรก แม้จะเผชิญสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 พร้อมรุกตลาดหนังเมืองคานส์ ชุจุดขาย Re-Opening ตอกย้ำลงทุนในมาตรการใหม่ เมื่อใช้จ่ายในประเทศไทย 100 ล้านบาทขึ้นไป คืนเงิน 20 % ช่วงชิงกองถ่ายหนังจากทั่วโลกใช้โลเคชั่นไทยถ่ายทำ

“สำหรับในปี 2565 นี้ เมื่อรัฐบาลเริ่มเปิดประเทศ ผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ กรมฯ ได้วางกลยุทธ์ Re-Opening โดยเตรียมโรดโชว์ตลาดเทศกาลภาพยนตร์ที่สำคัญๆ ทั่วโลก เริ่มด้วยเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (Cannes Film Festival 2022) ระหว่างวันที่ 17 – 28 พฤษภาคม นี้ ซึ่งภายในพาวิลเลียนจะจัดให้มีกิจกรรมเสวนา Business Talk พร้อมด้วยงานเลี้ยงระหว่างผู้ผลิตภาพยนตร์และหน่วยงานจากประเทศต่างๆ ตอกย้ำประเทศไทยคือจุดหมายปลายทางของการถ่ายทำทุกประเภทให้กับบริษัทผู้สร้างผู้ผลิตและนักลงทุนจากทั่วโลกที่เดินทางเข้าร่วมงานกว่า 6,000 ราย แสดงศักยภาพและความพร้อมทั้งในด้าน Filming Locations ที่หลากหลายและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก ทะเล อาคาร ย่านชุมชน เมืองเก่า และ สตูดิโอ ซึ่งประเทศไทยมีสตูดิโอขนาดใหญ่หลายแห่งที่ทันสมัย เป็นที่ยอมรับระดับสากล พร้อมให้บริการแก่กองถ่ายทำภาพยนตร์ทั่วโลก พรั่งพร้อมด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เสริมทัพด้วยมาตรการอินเซนทีฟที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการถ่ายทำภาพยนตร์ในทุกรูปแบบ”

นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ไทยได้วางกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนมาตรการส่งเสริมการถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติในประเทศไทย หรือ อินเซนทีฟ หากใช้จ่ายในประเทศไทย 100 ล้านบาทขึ้นไป จะคืนเงินให้ 20 % ส่งผลให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศติดต่อขอเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น สถิติการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยในปี 2564 พุ่งทะยานกว่า 5,007 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขนิวไฮที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการจัดเก็บสถิติมา โดยคณะกองถ่ายทำภาพยนตร์ที่เดินทางเข้ามามีแนวโน้มเป็นกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์รายใหญ่ที่มีงบประมาณการลงทุนสูง และมีการจ้างงานบุคคลากรชาวไทยจำนวนมาก ประกอบกับความเชื่อมั่นในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19  ศักยภาพของทีมงานไทย จึงทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์รายใหญ่หลายราย เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในปี 2564 อย่างต่อเนื่อง”