“บุ๋ม ปนัดดา” ออกโรงเตือน อย่าหลงเชื่อเพจปลอมเอาชื่อไปอ้าง ยันไม่เคยเอาเงินบริจาคไปเปย์ตัวเอง
แม่สุดทนแล้ว สำหรับ “บุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี” ซึ่ง ล่าสุดโดนใช้ชื่อไปอ้างทำเพจปลอม
หลอกคนลงทุน เลยต้องออกมาเตือนว่า อย่าไปหลงเชื่อเพจปลอมแอบเอาชื่อตัวเองไปอ้าง และขอชี้แจงสัมภาษณ์
ผ่านรายการ “เผ็ดมันส์บันเทิง” ทางช่อง 8 เรื่องที่โดนเอาชื่อแอบอ้างว่า
-จริงๆ แล้วในส่วนของเพจ “ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี”
หัวหน้าแฟนคลับเป็นคนทำ ตัวเราจะไม่ทำเฟสจะไม่เล่นเฟสเลย
เพราะเรารู้สึกว่ามันจะมีการตั้งกลุ่มกันแล้วมันจะมีปัญหาเกี่ยวโยงไปคุยเรื่องการเมือง
เราเลยไม่อยากยุ่งอ่ะ แต่มันมีพวกเอารูปจากเพจไปใส่แล้วก็ก๊อปปี้ข้อความไปด้วย ให้ดูเหมือนว่ามันจะรันไปพร้อมกันกับเพจจริง
จนมีคนติดตามตั้งเเต่หลักพันถึงหลักหมื่น
แล้วก็พอสักพักหนึ่งก็จะมีการเชิญชวนให้ลงทุนจากหลักพันแล้วจะได้เป็นเงินคืนหลักแสน
ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีอันไหนที่ลงทุนแล้วได้เงินเยอะขนาดนั้น มันไม่มีทาง
แต่ด้วยความที่มันยังมีคนเชื่อหรืออาจจะร้อนเงินก็ตาม
แต่ว่าถ้าเป็นแฟนคลับของเราส่วนใหญ่จะไม่เชื่ออยู่แล้ว
อาจจะมีเเค่บางกลุ่มที่ไปหลงเชื่อเพจกลุ่มเหล่านั้น
ซึ่งเราก็กดรีพอร์ตรายงานไปแล้วนะ
เเต่ทางเฟสบุ๊กก็ยังไม่ปิดให้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
จะให้เราไปแจ้งความตัวแอดมินก็อยู่ต่างประเทศ ก็ไม่รู้จะไปตามจับที่ไหนอ่ะเพราะว่าพวกนี้ไม่ได้อยู่เมืองไทย
ก็ได้แต่แจ้งผ่านเฟสบุ๊ก
แต่เขาก็ไม่ปิดก็เลยได้แต่ประกาศเตือนว่าพวกเนี่ยมันไม่ใช่ของจริงนะ
เพราะถ้าของจริงคือเพจเราที่มีคนตาม 2 ล้านกว่าเท่านั้น
และเราไม่มีการเชิญชวนลงทุน เพราะเราไม่มีตังค์จะให้นะคะ
รอบนี้ที่เราเจอเพจปลอมกี่เพจ?
-ก็เรียกว่าเจอกัน 4 เพจเลย ก็คือคล้ายๆ
กันหมดแพตเทิร์นเดียวกันหมด มีการก๊อปรูปไปเหมือนกันหมด
เราก็เลยใช้การเปลี่ยนรูปหนี ดูซิว่าจะตามได้ไหม แต่พอประกาศเตือนไปมันก็หยุด
มีผู้เสียหายทักมาบอกเราเยอะไหม?
-มันมี 2 ประเภทนะ ประเภทแรกคือทักมาบอกว่าหนูโดนค่ะ
เราก็เลยดุเขาไปว่าไปเชื่อเขาได้ยังไงเตือนแล้วไม่ใช่หรอ ก็คือต้องโดนดุซ้ำ
ถ้าเป็นแฟนคลับเราจะรู้ว่าเราไม่มีปลอบใจนะ
จะมีแค่การโดนดุซ้ำว่าไปเชื่อเขาได้ยังไง ว่าจะลงทุนให้แล้วมันจะได้คืน
ไปเชื่อว่าแม่บุ๋มจะให้ตังค์มันเป็นไปไม่ได้ เพราะแม่ไม่เคยให้
เราก็จะบอกว่าไปแจ้งความนะ
ส่วนหนึ่งเราเป็นผู้เสียหายโดยการมีคนเอาลูกไปหรอกคนอื่นก็จริง มันก็ได้แค่ พ.ร.บ.
คอม ทำได้ก็แค่ปิดเฟส มันจับตัวตนไม่ได้ มันต้องเป็นคนที่โดนโกงโดนหลอกให้ลงทุน
อันนี้ถึงจะไปแจ้งความจับได้ และอีกประเภทหนึ่งคือรู้ว่าเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก
เพราะหวังคิดว่าจะได้ตังค์
เพราะคนพวกนี้เขาอาจจะแบบว่าเดือดร้อนเรื่องเงินในช่วงนี้ อยากจะหาเงินมาใช้ด่วน
ก็คิดว่าอันนี้ไม่น่าโดนหลอกแต่สุดท้ายก็คือหลอกตัวเอง
กลุ่มนี้ก็เลยเป็นกลุ่มหลอกตัวเองว่าจะน่าจะได้เงิน เพราะลงทุนไปเเล้วไม่ได้ก็จะมาฟ้อง
อันนี้เราก็จะไม่ช่วยนะ
พอเจอเเล้วเราทำยังไง?
-ก็ได้แต่ประกาศเตือนกันไป
เพราะดาราคนอื่นเขาก็โดนเหมือนกัน ล่าสุดก็คือน้อง “เกรซ กาญจน์เกล้า”
ก็โดนก๊อปปี้ชื่อไปแอบอ้างเอาไปทำหลอกให้มีการลงทุนก็ค่อนข้างจะเยอะ
แล้วเงินเข้าพวกนั้นเยอะมาก แต่ไม่มีใครเคยได้เงินเลยอันนี้ขอเตือนไว้เลย
อย่างเคสของ “เกรซ”
เราก็เป็นคนประสานงานดำเนินการให้ด้วย?
-ใช่ อย่างของน้องเกรซอ่ะ
มีทางผู้เสียหายแจ้งมาทางเราว่าแม่รู้มั้ยว่าเกรซมีแบบนี้ด้วยนะ
เราก็เลยบอกว่าน้องไม่น่าจะทำนะ เขามีธุรกิจไม่น่าจะชวนลงทุนทำอะไรแบบนี้ เเบบให้ลงทุนหลักหมื่น
ได้คืนหลักเเสน มันไม่มีทางหลอกลูก
เราก็เลยรวบรวมข้อมูลส่งให้ทางน้องเกรซดูว่ามันมีแบบนี้นะ มันมีการปลอมไลน์
แล้วก็สืบไปด้วยว่ามันไม่ใช่ตัวตนจริง
ก็เลยส่งข้อมูลให้น้องแล้วก็ให้น้องไปแจ้งความ เพราะอันนั้นหลอกลวงใช้ชื่อตรงๆ เลย
มันมีมาแบบประเภทอื่นหรือแนวอื่นอีกไหม?
-ณ ตอนนี้ส่วนมากจะเป็นการชวนลงทุนมากกว่า
ก็คือเป็นการแบบลงทุนธุรกิจมีค่าตอบแทนเท่านี้
มันไม่ใช่แบบประกันเเล้วได้เงินหรือกู้เงินง่ายๆ มันคล้ายแชร์ลูกโซ่หรือพวกขายตรง
แล้วก็เป็นการใช้ชื่อดาราเป็นตัวอ้างแต่เจอแบบนี้เยอะเหมือนกัน
มันมีกลยุทธ์ยังไงบ้าง สำหรับพวกนี้?
-คือพวกนี้มันจะมีปรับเปลี่ยนมากกว่า
เเบบโปรแกรมคอลเซ็นเตอร์หรือพวกเพจที่หลอกให้ลงทุน หรือหลอกให้โอนเงิน มันเยอะมาก
ซึ่งเราก็ควรจะต้องรู้ทันสักที จะบอกว่ามันไม่มีเงินแบบไหนได้มาง่ายๆ
ด้วยการหลอกลวงคนอื่น ถ้าไม่อยากโดนหลอกอย่าไปเชื่ออะไรพวกนี้เลย
อันนี้ฝากเตือนคนอื่นๆ ด้วย เช็คได้เลยว่า “บุ๋ม ปนัดดา” ไม่มีการแจกเงิน
เเละก็มีเพจเดียว เป็นเพจหลัก ซึ่งในเฟสบุ๊กเราไม่เล่นแน่นอน
พูดถึง “องค์กรทำดี”
ของเราที่ตอนนี้ก็ยังดำเนินการอยู่ แบบต่อเนื่อง?
-ก็คือยังทำต่อนะ จะเรียกว่าโควิดซาเเล้วก็จริง
แต่มันก็ยังมีเคสอยู่ มันก็ยังมีเคสอื่นๆ อย่างเช่นผู้ป่วยติดเตียง
อย่างตอนนี้ก็จะมีการบริจาคโลงศพให้แก่ศพไร้ญาติหรือว่าคนจนที่จะมาขอกันเยอะมาก
เพราะว่าเศรษฐกิจมันไม่ดีหลายอย่าง เเละบางวัดหรือบางมูลนิธิของน้องๆ
ที่เขาทำมาบอกเรา ก็เลยต้องจัดให้ ก็ยังจะช่วยกันดูแล
เพราะเราเป็นมูลนิธิต้องทำบัญชีให้ชัดเจน เพราะอย่างกับโลงนึง 1,300
เราก็จะเอาชื่อมาเเปะเลย แล้วก็จะบอกเลยว่าโลงนี้ของคนนี้เป็นผู้บริจาคติดไว้เลย
เราจะทำงานแบบนี้ให้มันชัดเจน เเละก็แบบว่าส่งไปตามวัดนี้เท่านี้แบบชัดเจนในข้อมูล
เราเป็นคนหนึ่งที่จะชัดเจนเรื่องรายได้ของเงินบริจาคใช่ไหม?
-เรียกว่าเงินเเค่ 1,300 บาท ไม่คุ้มกับชื่อเสียงฉันหรอก
เป็นพรีเซนเตอร์ปีนึงมันก็ตั้งเท่าไหร่
มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งโกงเงินหลักพัน
ตรงนี้เราคิดว่ามันไม่คุ้มกับชื่อเสียง และเงินที่เราได้มันได้เยอะกว่านั้น แล้วเราก็ควักเงินไปเยอะกว่าด้วย
มันมีหลายเคสที่บางเคสปิดไปแล้วเเต่ค่าใช้จ่ายมันเยอะ เราต้องควักเองตลอด
ถึงต้องขยันหาเงินขนาดนี้ พวกที่ไปพูดว่าจะเอาเงินบริจาคไปเปย์ตัวเอง
มันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะจะบอกว่าบ้านเรารวยอยู่แล้วจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น