เปิดใจ
“พี่ฉอด สายทิพย์ - เอส วรฤทธิ์” คว้า
“รากแก้ว” ตีโจทย์ความรัก ยุค 2022 !
เปิดตัวปังสมการรอคอย
กับ “รากแก้ว” โปรเจกต์ชิ้นแรกของ ช่อง 3 และ CHANGE2561 จาก 2 ผู้จัดมากฝีมือ
พี่ฉอด
สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา และ เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย ที่ได้หยิบบทประพันธ์จากปลายปากกาของ กฤษณา อโศกสิน
ซึ่งเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2517 มาตีโจทย์ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปแบบละครครั้งแรก นำแสดงโดย
คริส หอวัง, เก้า สุภัสสรา, หลุยส์ สก๊อตต์, พีช พชร, โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์,
ออร์แกน ราศี ฯลฯ กับการเปรียบมนุษย์หมือนกับต้นไม้ ที่ต้องมีรากแก้วที่แข็งแรง
จึงจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่สวยงาม
เช่นเดียวกับมนุษย์ที่ต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดูปลูกฝังที่ดีจากครอบครัวจึงจะเติบโตเป็นคนดีของสังคม
ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นผลงานละครให้ทุกคนดูก็ไม่ง่าย และวันนี้เองที่จะพาทุกคนมาทำความรู้จักละครเรื่องนี้ให้มากขึ้นผ่านมุมมองของ
พี่ฉอด - พี่เอส ที่มาเปิดใจ
ไขทุกประเด็นที่หลายคนสงสัย
ละคร รากแก้ว คืออะไร
พี่ฉอด : “คำว่า รากแก้ว ตีความหมายถึง การเปรียบเทียบคนที่เหมือนกับต้นไม้
ซึ่งต้นไม้ที่จะเติบโตได้ดีก็ต้องมีรากแก้วที่แข็งแรง
ถึงจะทำให้เกิดเป็นต้นไม้ที่ใหญ่โตแข็งแรงได้ก็เหมือนกับมนุษย์ทุกคน
จำเป็นต้องมีรากแก้วที่ดี ซึ่งหมายถึงครอบครัวทุกคนต่างก็มีที่มาที่ไปที่แตกต่างกันไป
การอบรมเลี้ยงดู หรือปมในชีวิตที่ต่างกัน ใดๆ
ก็ตามที่ทำให้มนุษย์แต่ละคนเป็นไปในแต่ละอย่างนั้นมันก็เกิดจากรากแก้วของแต่ละคน”
เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมายังไง
เพราะบางคนก็มองว่าเป็นหญิงรักหญิงหรือเปล่า
พี่เอส: “จริงๆ
ด้วยโครงสร้างของตัวละครที่คุณกฤษณาเขียนมา มันจะมีตัวละครหลักสองตัวคือ รังรอง
กับ โรยทองทราย ซึ่งมันเป็นความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง
แต่ว่าในฐานะของผู้ผลิตทางเราเองไม่ได้มีความตั้งใจที่จะนำเสนอในประเด็นทางเพศ จริงๆ
แล้วในสิ่งที่เราตีความกัน คือ
พื้นฐานของครอบครัวที่ทุกคนเติบโตขึ้นมาแล้วผ่านประสบการณ์ชีวิต
มันเลยทำให้ทุกตัวละครจะมีปม มีปัญหา และสุดท้ายมันแสดงออกมา
ทุกอย่างมันเชื่อมโยงด้วยคำเดียว คือ ‘รัก’ ตอนนี้เราอยู่ในยุคสมัยที่เปิดกว้างมากๆ
ในเรื่องของเพศ จริงๆ แล้วความรักสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกคน
เพียงแต่ว่ามันจะผิดหรือถูกขึ้นอยู่กับการแสดงออกความรักที่มันอาจจะไปทำร้ายกัน
หรือล้ำเส้นกันอย่างไร”
กลัวกระแสคนดูจะวิจารณ์ไหม
ว่าแฟนๆ จะรับได้หรือเปล่ากับละครแนวใหม่แบบนี้
พี่ฉอด : “ไม่เป็นไรค่ะ การรับได้หรือไม่ได้พี่ว่ามันขึ้นอยู่กับการที่ต้องดูก่อน
ขอให้ได้ดูก่อนนะคะ เพราะว่าบางทีการที่เราตัดสินกันง่ายๆ เพียงแค่ทีเซอร์ 30 วิ
หรือ 1 นาที ก็อาจจะเป็นการตัดสินใจที่เร็วไปนิดหนึ่ง ดูแล้วถ้าชอบหรือไม่ชอบมีฟีดแบคยังไง
พวกเราที่เป็นคนทำงานเราพร้อมน้อมรับทุกอย่างด้วยความเข้าใจ
เพราะว่าเวลาเราทำงานก็คือทำงานคำตอบสุดท้ายก็คือคนดูที่จะบอกพวกเราว่ารู้สึกยังไงกับงานของเรา
แต่เพียงแค่ว่าอยากขอให้ดูก่อนแล้วจะเข้าใจถึงเจตนาความตั้งใจในการทำงานเรื่องรากแก้วของพวกเรา”
อธิบายตัววางตัวละครให้แฟนๆ
เข้าใจหน่อย
เอส : “เคสติ้งตัวละครเรื่องหนึ่งต้องบอกว่าเราทำการบ้านกันเยอะมากๆ
มันต้องมีการลงตัวอะไรในหลายๆ อย่างตัวละคร รังรอง
ผมคิดว่าคริสมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมจะเป็นรังรองมาก มีความเป็นผู้หญิงสูง
และมีความสมาร์ทแบบผู้ชาย มีความเข็มแข็งและก็ชัดเจน ส่วน โรยทองทราย พี่รู้สึกว่าเก้าเป็นเด็กผู้หญิงที่พร้อมจะลุกขึ้นสู้เพื่ออิสรภาพของตัวเองเป็นเด็กที่มีแรงผลักอยู่ตลอด
ตัว ริบดิน พีชเหมาะที่สุดๆ นึกคนอื่นไม่ออกเลย คือเป็นผู้ชายที่มีความกวนตั้งแต่บุคลิก
ท่าทาง คำพูด ท่ายื่น พีชคือริบดินเลยครับ ส่วน กิดา บุคลิกออกแนวแด๊ดดี้ที่ดูเป็นผู้ใหญ่มีความคิด
ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาเยอะ ซึ่งหลุยส์ถ่ายทอดออกมาได้ดี
ดังนั้นพอทุกตัวละครมารวมกันก็จะฟาดฟันกันสุดๆ”
กลัวกระแสฉากรุนแรงในเรื่องบ้างไหม
พี่ฉอด : “บางทีทำละครก็จะมีการพูดกันว่า
มีฉากที่มันรุนแรงกลัวว่าจะมีการลอกเรียนแบบหรือป่าว เอาจริงๆ
ก็ต้องบอกว่าในชีวิตจริงตอนนี้มันค่อนข้างโหดร้ายกว่าในละครไปเยอะมากแล้ว
ข่าวสารรอบตัวเราเห็นอยู่แล้วว่าตอนนี้มันมีความรุนแรง
เพราะฉนั้นมันอาจจะอยู่ที่มุมมองวิธีคิด อะไรที่เราเอามาถ่ายทอดในละคร
เราไม่ได้สักแต่ว่าเอาฉากรุนแรงในละครมาในดูกันเฉยๆ
แต่ทุกฉากมันมีที่มาที่ไปและบทสรุป มันจะต่างกับข่าวสารที่เราได้รับทุกวันนี้
บางทีเราไม่เห็นบทสรุปด้วยซ้ำไป เราเลยหวังว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับละครเรา
มันจะทำให้เกิดการเรียนรู้ การระมัดระวัง การป้องกัน หรืออย่างน้อยที่สุด
คนดูจะได้อะไรจากตัวละครแต่ละตัวเผื่อเอาไปใช้เป็นวัคซีนในชีวิตจริงได้”
ฝากถึงคนดูกับการถ่ายทอดความรักมุมครอบครัวในแบบฉบับของ
CHANGE2561
พี่เอส : “สิ่งที่เราอยากจะนำเสนอ
มันคือพื้นฐานของครอบครัว ความรักของครอบครัวที่ถูกปลูกฝัง จากคนๆ
หนึ่งที่ต้องเติบโตมาใช้ชีวิตในสังคม ถ้าแรกแก้วที่ไม่ดี มีความรักที่ไม่ถูกต้อง
มันอาจจะล้ำเส้นและไปทำร้ายใคร โดยที่ตัวเองก็อาจจะไม่ทันได้รู้ตัว
แต่ผลกระทบกันเกิดขึ้นแล้ว
และมันก็ขยายผลออกไปเหมือนกับตัวทรายที่ได้รับผลกระทบจากรังรอง
อันนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจและอยากให้ทุกคนได้ติดตาม และในทุกๆ
ซีนของรากแก้วมันเร็วและกระซับ ทุกซีนคือทรงพลังจริงๆ ตัวละครอาจจะไม่เยอะนะครับ
แต่ทุกคนใส่กันสุดแรง ตัวละครทุกตัวมีเหตุและมีผล
คุณอาจจะเห็นผลก่อนแล้วคุณจะค่อยๆ แกะรอยตามไปดูว่าต้นเหตุของปัญหา
ต้นเหตุการกระทำของตัวละครนั้นคืออะไร นั่นคือเสน่ห์ของการดูละครเรื่องนี้”
การันตีถึงเครื่องขนาดนี้ แฟนๆ รอติดตาม “รากแก้ว” ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี
เวลา 20.30 น. ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus
==4/11/22==
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น