รางวัล Asian Academy Creative Awards 2019 เป็นรางวัลคนบันเทิงยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย ซึ่งจะมีการประกาศผลรางวัลในวันที่ 6 ธันวาคม 2562 ที่ประเทศสิงคโปร์ สำหรับในปีนี้มีคอนเทนท์ต่างๆของประเทศไทยที่ได้คัดเลือกเป็นตัวแทนของประเทศ
ที่เรียกว่า Regional Winner
เพื่อไปเข้าชิงกับคู่แข่งอีก 15 ประเทศ
เพื่อเลือกผู้ชนะเลิศของทวีปเอเชียในส่วนของคอนเทนท์ละคร และละครช่อง 3 ได้เป็น Regional Winner ส่งเข้าชิงถึง 9 รางวัล ซึ่งมากที่สุด จากผลงานของละคร 4 เรื่องได้แก่
“กรงกรรม” 6 รางวัล, “ทองเอก หมอยาท่าโฉลง” 1 รางวัล, “อังกอร์” 1 รางวัล และ
“วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2” 1 รางวัล มาร่วมเจาะลึกรางวัลของละครแต่ละเรื่องว่ามีรางวัลอะไรบ้าง
เริ่มกันที่ละคร “กรงกรรม” ที่มีผลงานเข้ารอบถึง
6 รางวัล ได้แก่ รางวัล Best Drama Series ละครยอดเยี่ยม, รางวัล Best
Actor in a Leading Role นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม “เจมส์ จิรายุ”,
รางวัล Best Actor in a Supporting Role “เด่นคุณ
งามเนตร”, รางวัล Best Actress in a Supporting Role
“แพร์ พิชชาภา”, รางวัล Best Direction
(Fiction) โดย “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์”, รางวัล Best
Theme Song ได้แก่ เพลง “ผิดหรือที่รักเธอ” ร้องโดย “ใหม่
เจริญปุระ” เหตุผลที่ทุกคนต้องดู “กรงกรรม”
ทั้งๆที่เป็นละครสะท้อนสังคมดราม่าหนัก ไม่ใช่ละครเน้นความสวยงามมีตอนจบ พระ-นาง ต้องรักกัน
แต่การวางโครงเรื่องของ “กรงกรรม” อัดแน่นไปด้วยสาระ นำเสนอ‘ความรัก’ในหลายรูปแบบ
ตัวละครหลัก “นางย้อย” แม่ผัวที่รักลูกชายมากกว่าตัวเอง
ตั้งความคาดหวังกับลูกทุกคน และ“เรณู” ลูกสะใภ้โสเภณีสู้ชีวิต
ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม
เมื่อความรักตั้งอยู่บนความคาดหวังความเสียใจและผิดหวังจึงตามมา
ถึงตัวหลักทั้งสองจะเป็นตัวเดินเรื่อง แต่แทนที่จะทิ้งน้ำหนักไว้ที่ตัวละครทั้งสอง
ละครยังให้ความโดดเด่นกับตัวละครอื่นๆเท่าๆกัน ไม่มีตัวไหนถูกทิ้งให้ด้อยลง
คนดูจึงเกิดความรักในตัวละครทุกตัว ประกอบกับการแสดงที่ดีมากของนักแสดงในเรื่องทั้ง
ใหม่-เจริญปุระ, เบลล่า-ราณี, เจมส์-จิรายุ, แพร์-พิชชาภา และ เด่นคุณ งามเนตร
ที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกให้กับคนดูอย่างเต็มที่ และเกิดความรักในละคร “กรงกรรม”
จนได้รับเลือกเข้าชิงรางวัล ละครดราม่ายอดเยี่ยม, ผู้กำกับ และเพลงประกอบละครยอดเยี่ยม
ในส่วนนักแสดงเริ่มที่ “เจมส์ จิรายุ”
เข้าชิงรางวัล Best Actor in a
Leading Role ในบท
“อาซา” ลูกชายคนที่สามของแม่ย้อย ที่ดูเหมือนบทจะง่าย วางพื้นฐานไว้ให้เป็นเด็กผู้ชายโลกสวย เชื่อฟังพ่อแม่ เสียสละ และอยู่ในกฎระเบียบของแม่ย้อย ทั้งที่จริงๆแล้วบทของ อาซา มีความซับซ้อนทางความคิดและจิตใจ มีความขัดแย้งในตัว สิ่งที่อยากทำ กับความเป็นจริง มันต่างกัน เจมส์-จิรายุ ต้องแสดงออกทางสายตา และร่างกาย เพื่อสื่อให้คนดูเข้าใจเห็นใจในความรู้สึก รัก กับ อึดอัด ในเวลาเดียวกันมันทรมาน อาซา เป็นคนดี น่ารัก น่าสงสาร และจิตใจงดงามไม่เสแสร้ง จึงเป็นที่รักของคนดูจนได้เข้าลุ้นรางวัลในครั้งนี้ส่วน “แพร์-พิชชาภา” เข้าชิงรางวัล Best Actress in a Supporting Role ในบท “พิไล” ลูกสะใภ้คนที่สองของบ้านแม่ย้อย นิสัยทะเยอทะยาน ต้องการความเหนือกว่า และมีความโลภในจิตใจ ถือว่า แพร์-พิชชาภา ถ่ายทอดความรู้สึกคนขี้อิจฉา โลภโมโทสัน ออกมาได้แซ่บ..!!อย่างไม่น่าเชื่อ ความแซ่บ..!! ของ “ซ้อพิไล”สามารถทำให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์ไปทั่วโดยเฉพาะ ‘พันทิพ’ ว่าบทบาทนี้สามารถเข้าชิงได้ถึงรางวัลนำหญิงยังได้เลย เพราะแค่ฉากเดียว พิไล สามารถทำให้คนดูเกิดความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสงสาร สมน้ำหน้า และเห็นใจในเวลาเดียวกัน อีกคนของละคร “กรงกรรม” คือ “เด่นคุณ งามเนตร” รางวัล Best Actor in a Supporting Role ในบท “ไอ้ก้าน” ชายหนุ่มแสนจนคนซื่อ ผู้ชายธรรมดาแสนธรรมดา แต่หน้าตาดีรูปร่างดี จนสาวๆแอบหลงรัก แต่มาชอบลูกสาวกำนัน รักจริงหวังแต่ง ทั้งๆที่ความรักครั้งนี้ความเป็นไปได้แทบจะไม่มี ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์จนท้อแท้ เด่นคุณ งามเนตร ถ่ายทอดบทบาทของ ไอ้ก้าน ออกมาได้อย่างน่าสงสาร ทำให้ใครๆก็หลงรัก และชื่นชอบในบทบาทการแสดงจนเกิดแฟนคลับมากมาย กระแสโซเชียลกระหึ่ม..!! เอาใจช่วย ไอ้ก้าน ให้พิชิตใจพ่อตาแม่ยายได้สำเร็จ จนได้เข้าชิงรางวัลในครั้งนี้ ทีมละคร “กรงกรรม” ทั้งผู้กำกับ “อ๊อฟ พงษพัฒน์”, “เจมส์-จิรายุ”, “เด่นคุณ งามเนตร” “แพร์-พิชชาภา” รวมถึง “แดง-ธัญญาโสภณ” ผู้จัด, “น้องบีบี-เอกนรี” ลูกสาวคนเก่งทายาทละคร ร่วมเดินทางไปลุ้นการประกาศผลรางวัลในครั้งนี้ครบทีม
“อาซา” ลูกชายคนที่สามของแม่ย้อย ที่ดูเหมือนบทจะง่าย วางพื้นฐานไว้ให้เป็นเด็กผู้ชายโลกสวย เชื่อฟังพ่อแม่ เสียสละ และอยู่ในกฎระเบียบของแม่ย้อย ทั้งที่จริงๆแล้วบทของ อาซา มีความซับซ้อนทางความคิดและจิตใจ มีความขัดแย้งในตัว สิ่งที่อยากทำ กับความเป็นจริง มันต่างกัน เจมส์-จิรายุ ต้องแสดงออกทางสายตา และร่างกาย เพื่อสื่อให้คนดูเข้าใจเห็นใจในความรู้สึก รัก กับ อึดอัด ในเวลาเดียวกันมันทรมาน อาซา เป็นคนดี น่ารัก น่าสงสาร และจิตใจงดงามไม่เสแสร้ง จึงเป็นที่รักของคนดูจนได้เข้าลุ้นรางวัลในครั้งนี้ส่วน “แพร์-พิชชาภา” เข้าชิงรางวัล Best Actress in a Supporting Role ในบท “พิไล” ลูกสะใภ้คนที่สองของบ้านแม่ย้อย นิสัยทะเยอทะยาน ต้องการความเหนือกว่า และมีความโลภในจิตใจ ถือว่า แพร์-พิชชาภา ถ่ายทอดความรู้สึกคนขี้อิจฉา โลภโมโทสัน ออกมาได้แซ่บ..!!อย่างไม่น่าเชื่อ ความแซ่บ..!! ของ “ซ้อพิไล”สามารถทำให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์ไปทั่วโดยเฉพาะ ‘พันทิพ’ ว่าบทบาทนี้สามารถเข้าชิงได้ถึงรางวัลนำหญิงยังได้เลย เพราะแค่ฉากเดียว พิไล สามารถทำให้คนดูเกิดความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสงสาร สมน้ำหน้า และเห็นใจในเวลาเดียวกัน อีกคนของละคร “กรงกรรม” คือ “เด่นคุณ งามเนตร” รางวัล Best Actor in a Supporting Role ในบท “ไอ้ก้าน” ชายหนุ่มแสนจนคนซื่อ ผู้ชายธรรมดาแสนธรรมดา แต่หน้าตาดีรูปร่างดี จนสาวๆแอบหลงรัก แต่มาชอบลูกสาวกำนัน รักจริงหวังแต่ง ทั้งๆที่ความรักครั้งนี้ความเป็นไปได้แทบจะไม่มี ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์จนท้อแท้ เด่นคุณ งามเนตร ถ่ายทอดบทบาทของ ไอ้ก้าน ออกมาได้อย่างน่าสงสาร ทำให้ใครๆก็หลงรัก และชื่นชอบในบทบาทการแสดงจนเกิดแฟนคลับมากมาย กระแสโซเชียลกระหึ่ม..!! เอาใจช่วย ไอ้ก้าน ให้พิชิตใจพ่อตาแม่ยายได้สำเร็จ จนได้เข้าชิงรางวัลในครั้งนี้ ทีมละคร “กรงกรรม” ทั้งผู้กำกับ “อ๊อฟ พงษพัฒน์”, “เจมส์-จิรายุ”, “เด่นคุณ งามเนตร” “แพร์-พิชชาภา” รวมถึง “แดง-ธัญญาโสภณ” ผู้จัด, “น้องบีบี-เอกนรี” ลูกสาวคนเก่งทายาทละคร ร่วมเดินทางไปลุ้นการประกาศผลรางวัลในครั้งนี้ครบทีม
ทางด้านรางวัล Best Comedy Performance ได้แก่ “มาริโอ้ เมาเร่อ”
จากเรื่อง “ทองเอก หมอยาท่าโฉลง” ละครพรีเรียด-คอมเมดี้
ย้อนยุค ที่มีความแปลกไม่เหมือนใคร เป็นละครตลกแฝงความจริงใจของหมอยาไทยโบราณคนหนึ่ง
เป็นคนธรรมดา มีความตลกบนพื้นฐานของจิตใจ
มีความมุ่งมั่นที่จะรักษาคนไข้ด้วยความจริงใจ
พร้อมสอดแทรกสาระความรู้ทางยาสมุนไพรโบราณในการช่วยรักษาโรค
ทำให้ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ ซึ่งการคัดเลือกนักแสดงมารับบทถือว่าสำคัญ มาริโอ้-เมาเร่อ
มีพื้นฐานของความเป็นคนตลก มีสายตาที่อ่อนน้อม จริงใจ ขี้เล่น จึงเหมาะสมลงตัว
ทำให้พ่อหมอทองเอกได้รับความรักจากคนดูทั่วไปประเทศ
และได้รับเลือกขึ้นเป็นตัวแทนประเทศไทยลุ้นรางวัล Best Comedy Performance ต่อไป
เมื่อมีผลงานละครและนักแสดงยอดเยี่ยม
ก็ต้องมีรางวัล Best Original
Screenplay เจ้าของบทประพันธ์และผู้เขียนบทโทรทัศน์ยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง
“วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2” ได้แก่ “ณัฐิยา ศิรกรวิไล” และทีมงาน เป็นละครโทรทัศน์ไทยแนวโรแมนติก-ดราม่า
สร้างจากเค้าโครงเรื่องโดย “ณัฐิยา
ศิรกรวิไล”
เขียนบทโทรทัศน์โดย ณัฐิยา ศิรกรวิไล, กุศลิน เมฆวิภาต, ชญานิน, สายขิม, วาณี, กัลยาณมิตร กำกับการแสดงโดย “ศุภณา ครุฑนาค” นำแสดงโดย “อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ” และ “จ๊ะ-จิตตาภา แจ่มปฐม” ละครน้ำดีตีแผ่ปัญหาสังคมที่กวาดรางวัลจากภาคแรกอย่างมากมาย
สำหรับโครงการ 2 ถือว่ามีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น
ศึกษาทุกปัญหาแบบเจาะลึกมากกว่าภาคแรก
สะท้อนปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นจริงในสังคมยุคปัจจุบัน
ผ่านการแก้ปัญหาจากบุคคลที่เข้าใจปัญหา แต่บุคคลคนนั้นกลับมีปัญหาของตัวเองเช่นกัน
เรียกว่าทิ้งจุดสำคัญของปัญหาเอาไว้หลายจุด
เป็นเรื่องยากอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องทำให้คนดูไม่เครียดและร่วมติดตามเรื่องราวไปจนจบเรื่อง
บทละครจึงสำคัญอย่างมาก
ผู้เขียนบทและทีมงานต้องทำการบ้านศึกษาเรื่องราวอย่างละเอียดก่อนคนอื่นๆ
เพื่อขยายให้คนดูเกิดความเข้าใจ รางวัลนี้จึงสำคัญ ถือเป็นความภูมิใจของคนไทยอีกหนึ่งรางวัลซึ่ง“คุณเอิน-ณิธิภัทร์”
ผู้จัด ร่วมเดินทางไปลุ้นรางวัลด้วยตัวเอง
อีกหนึ่ง รางวัล Best Visual or Special FX in TV Series สุดยอด สเปเชี่ยลเอฟเฟค ที่น่าลุ้น กับละครเรื่อง “อังกอร์” เป็นผลงานสุดคลาสสิกของ
ฉลอง ภักดีวิจิตร หรือ อาหลอง
ซึ่งคนดูติดกันทั้งบ้านทั้งเมืองไม่ว่าจะมาทำในเวลาไหน
ก็ยังคงความนิยมทั้งๆที่รู้เรื่องราวของ อังกอร์ กันแล้วส่วนใหญ่
เพียงแค่ได้ยินประโยคที่ว่า “ปิ้งไก่ ระเบิดภูเขา เผากระท่อม”
จะรู้กันทันทีว่าละครแอคชั่น เอฟเฟคซีจี ฟอร์มไทยแลนด์กำลังมา และเมื่อเพลงขึ้น "เสมือนท้องฟ้าวิปริต
แปรปรวนทันใด" แล้วสามารถร้องต่อประโยคได้ว่า... "เปรี้ยงปร้างสว่างไสวอันตรายไปทุกที่...อังกอร์..."
แสดงว่าช่วงเวลาของเสือร้ายที่กำลังทำให้ป่าทั้งป่าปั่นป่วนได้เกิดขึ้นแล้ว
คนตายต้องมี คนบาดเจ็บต้องมา นั่นคือ “อังกอร์” ละครแอ็คชั่น ดราม่า
แฟนตาซี ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจและใส่ใจของทีมงานค่าย อาหลองจูเนียร์
เมื่อละครออกอากาศทำให้เรตติ้งกระฉูดไม่แพ้เรื่องอื่นๆถือเป็นมหากาพย์ของละครที่ไม่เหมือนใคร
การหลบหนีที่มาพร้อมความหวาดเสียว จากระเบิด อำนาจมนต์ดำ
และจากสถานที่อันลี้ลับต่างๆ พร้อมกับ เอฟเฟคซีจี ที่ใส่มาเต็มที่
จึงส่งผลให้ละครเหมือนมีมนต์สะกด และได้เข้าลุ้นรางวัลในครั้งนี้
รางวัล Asian Academy Creative Awards 2019 จะประกาศผลในคืนวันที่ 6 ธันวาคม
2562 ณ โรงละครวิคตอเรีย ประเทศสิงคโปร์
ร่วมส่งกำลังใจ ร่วมลุ้นไปกับผลงานละคร ผู้จัด ผู้กำกับ นักเขียนบทละคร และนักแสดง
ทั้ง 9
รางวัล กับละครทั้ง 4 เรื่อง ให้ได้รับรางวัลกันให้มากที่สุด
====โพสเมื่อ20/11/62====
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น