สยามเซ็นเตอร์
รวบคีย์ลุคเทรนด์แฟชั่นรับลมร้อน เป็นแห่งแรก!!
เสน่ห์ฤดูร้อน 2020 จากแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชั้นนำ
ค้นพบแรงบันดาลใจไปกับแฟชั่นสุดล้ำ ณ ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์
สยามเซ็นเตอร์
เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์รวมแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชั้นนำยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
ชวนเหล่าแฟชั่นนิสต้าเลือกอัพเดทเทรนด์มาแรงที่สุดก่อนใคร “แฟชั่นฤดูร้อน” SS2020 ซีซั่นแห่งปีที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันแห่งแฟชั่น เรื่องราวแรงบันดาลใจของเหล่าดีไซเนอร์ต่างถูกนำมาสร้างสรรค์ผ่านลวดลายและสีสันบนผืนผ้า
ด้วยดีไซน์การออกแบบที่แปลกตาที่สร้างความเซอร์ไพรส์ได้อย่างน่าสนใจ
สยามเซ็นเตอร์จึงรวมคีย์ลุคผลงานของไทยดีไซเนอร์ที่แสดงศักยภาพความสามารถเป็นที่ชื่นชมของแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ณ ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์
เริ่มจากแบรนด์สุดคลาสสิคตามแบบฉบับหนุ่มสมาร์ทควงคู่สาวโก้ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังอย่าง Greyhound Original (เกรย์ฮาวด์ ออริจินัล) ฤดูกาลนี้ GH ลุกมาชวนสายแฟหนีร้อนไปพึ่งเย็นพร้อมอวดชุดสวยกับ “Summer
Vacation” คอลเลคชั่นที่มาจากความสนุกของการเดินทางไปที่ต่างๆ
การจินตนาการถึงสันติภาพ ดอกไม้ แสงแดด เกาะ โรงแรมสุดหรู และการส่งโปสการ์ดถึงคนพิเศษ
ผลงานที่หยิบเอาความทันสมัย และอดีตที่น่าจดจำผ่านลวดลายกราฟฟิก
ผสมผสานเท็กซ์เจอร์เนื้อผ้าและเส้นใยธรรมชาติ เทคนิคการห่ม ห่อ ป้าย
การพันผูกสไตล์กางเกงเลเสริมฟังก์ชั่นการสวมใส่ที่หลากหลายหลีกหนีความน่าเบื่อจำเจของชีวิตแบบชาวเมือง
อีกหนึ่งคาแรคเตอร์จากแบรนด์รักอิสสระและคิดนอกกรอบ Smileyhound (สมายลี่ฮาวด์) อวดโฉมคอลเลคชั่น SS2020 ในชื่อ “SummerCraft” ดึงเสน่ห์ของงานคราฟท์ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวแสนสนุกของฤดูร้อนนี้
โดยการนำงานศิลปะทำมือมาตัดทอนให้เรียบง่ายในสไตล์คนเมือง ทั้งงานปะผ้า
(PatchWork) ผสมผสานเอกลักษณ์ในสไตล์ญี่ปุ่นถ่ายทอดมุมมองใหม่ในสไตล์กราฟฟิก
ทั้งโลโก้ ซิกเนเจอร์ที่ถูกออกแบบให้ดูเหมือนการปะผ้าผสมกับลายเดินเส้น
และงานย้อมผ้า (Tie-Dye) นำเสนอบรรยากาศฤดูร้อนออกมาได้อย่างคุ้นตา
ผ่านการใช้เทคนิคมัดย้อมมาเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่โดยการแปลงเป็นงานปัก
ไปจนถึงการสร้างสรรค์เส้นสายและลวดลายอิสระทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ใส่ลูกเล่นด้วยการหยอดสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่นอย่าง
สีน้ำเงินสด สีส้ม สีเขียวมิ้น และโทนสีสบายตาอย่างสีเหลือง
และสีชมพูอ่อนให้ทุกคนเพลนกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ในหลากหลายโอกาสตลอดฤดูร้อนนี้
แบรนด์ระดับท้อปลิสต์ที่หญิงสาวตั้งตารอชม KLOSET (คลอเซ็ท) บ่อยครั้งที่การเดินทางสำรวจนำพาไปสู่การค้นพบร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันน่าอัศจรรย์
เช่นเดียวกับสาว KLOSET ใน คอลเลคชั่น “The Hidden
Treasure” การเลือกเดินทางไปค้นหาแรงบันดาลใจยังสถานที่อันเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างกรีซ
ไม่อาคารบ้านเรือนสีขาวซึ่งตัดกับสีฟ้าสดของท้องฟ้าและท้องทะเล แซมด้วยสีบานเย็นของดอกเฟื่องฟ้าที่เบ่งบานโปรยปรายตลอดข้างทาง
โดยถ่ายทอดเรื่องราววันพักร้อนผ่านดีเทลอย่างการเลือกใช้ผ้าใยธรรมชาติอย่างคอตตอนและลินิน
ตกแต่งด้วยลูกปัดสีชมพูบานเย็น จับคู่กับเสื้อแจ๊กเก็ต กางเกงคาร์โก้ และสไตล์ชุดแบบซาฟารีที่เน้นความทะมัดทะแมงและคล่องตัว
ไปจนถึงเนื้อผ้าซาตินที่มีความเงา รวมถึงกระดุมเหรียญทองที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเสริมสร้างกลิ่นอายความหรูหราลงไปในคอลเลคชั่นอย่างพอดี
แบรนด์แฟชั่นที่สะท้อนตัวตนหญิงสาวแสนงดงาม Senada* (ซีนาด้า) อวดโฉมคอลเลคชั่น “La
Pique-Nique” ด้วยอินสไปร์จากงานศิลป์ชิ้นประวัติศาสตร์ ในชื่อ
“La
Pique-Nique” ภาพจิตรกรรมฝีมือจิตรกรเอกแห่งยุควิคตอเรียน
เรื่องราวของวิถีชีวิตชนชั้นสูงที่ปรากฏในภาพวาดสีน้ำมันเผยให้เห็นบรรยากาศการปิคนิคยามบ่ายอันแสนรื่นรมย์ในช่วงย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วง
บรรดาบุรุษและสตรีที่บรรจงแต่งกายงดงามกำลังสังสรรค์และผ่อนคลายอยู่บริเวณริมสระน้ำในสวนหลังบ้านท่ามกลางต้นเกาลัดที่ใบกำลังเปลี่ยนสี
นับเป็นกลิ่นอายวัฒนธรรมที่มีความงดงามในทุกรายละเอียดนำมาผสมสานกับแฟชั่นร่วมสมัยสะท้อนออกมาเป็นคอลเลคชั่น
Ready-to-wear ที่มีความเป็นผู้หญิงอย่างเต็มเปี่ยม และยังแฝงด้วยลูกเล่นต่างๆ รวมถึงอารมณ์หรูหราสมกับการปิคนิคในแบบฉบับของ Senada*
ด้านแบรนด์ที่หลงใหลในธรรมชาติ TAKTAI (ทักทาย) นำเสนอคอลเลคชั่น “Stay till the Sunset” บรรยากาศยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในฤดูร้อน แสงสุดท้ายอันอบอุ่นสาดสีส้มตัดกับสีน้ำเงินสดของท้องฟ้า
ช่วงเวลาก่อนจะเข้าสู่ราตรีกาลคือแรงบันดาลใจของคอลเลคชั่นล่าสุด สำหรับฤดูกาลนี้ TAKTAI ดึงเสน่ห์ของของผ้าลินิน และเทนเซล มาถักทอร่วมกับเส้นใยไผ่และใยฝ้ายเป็นผ้าผืนงาม
อันเป็นผลงานทรงคุณค่าของช่างทอฝีมือดีในจังหวัดเชียงใหม่
ที่โดดเด่นด้วยผิวสัมผัสและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ แต่งแต้มด้วยสีสันประจำฤดูกาล ทั้งสีขาวนวลธรรมชาติจากเส้นด้ายดิบ
โทนสีส้มหลายเฉดตั้งแต่สีโอลด์โรส สีส้มอมชมพู ไล่ไปจนถึงสีส้มแดงสดใส ตัดด้วยสีน้ำเงินและฟ้าอมเทา
ให้ความรู้สึกเรียบโก้แต่ยังคงความสบายและเรียบง่ายในแบบฉบับของแบรนด์
ปิดท้ายด้วย
Wonder Anatomie แบรนด์ผู้พิสูจน์ว่าแฟชั่นไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว (วันเดอร์
อนาโตมี) ดึงแรงบันดาลใจในสร้างสรรค์คอลเลคชั่นล่าสุด “3D” ความกล้าที่จะผสมผสานงานแฟชั่นกับศิลปะ 3D
หรือ สามมิติ และสามารถสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างเหนือความคาดหมาย
ไอเดียที่ล้อเลียนมิติ
ของงานศิลปะ โดยการนำเทคนิคการใช้เส้นสาย
ลวดลายกราฟฟิก ไปจนถึงการใช้สีที่ตัดกันมาอยู่ด้วยกันเป็นศิลปะลวงตาสู่ภาพสามมิติบนงานแฟชั่น
ทั้งลายกราฟฟิกดอกกุหลาบ พร้อมทั้งเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่
ปรากฏให้เห็นในทุกคอลเลคชั่นของแบรนด์
คือ การสร้างลวดลายสรีระและโครงสร้างร่างกายมนุษย์มาไว้ในคอลเลคชั่นนี้อย่างลงตัว ซึ่งนับเป็นความกล้าคิดและกล้าทำของแบรนด์ที่พิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วจากหลายเวทีทั่วโลก
ตามติดทุกกระแสแฟชั่นร้อนแรงที่สุด
พร้อมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่ล้ำเทรนด์ให้คุณได้อัพเดทก่อนใครทุกฤดูกาล ณ ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น